วันพฤหัสบดีที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

การเลือกตั้งประธานาธิบดี

เลือกตั้งสหรัฐฯ ไม่ว่าใครเป็นผู้นำ พญาอินทรีย์ตัวนี้ก็ยังคงมีท่าบินเหมือนเดิม..ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
ผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ สรุปแล้วว่าบารัค โอบามาจะยังคงครองตำแหน่งผู้นำประเทศได้อีกเป็นสมัยที่ 2 แต่การชิงชัยเก้าอี้ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาครั้งนี้ไม่ง่ายเหมือน ครั้งแรกนัก เพราะคะแนนโหวตที่ให้กับมิตต์ รอมนีย์หลั่งไหลเข้ามาอย่างท่วมท้น เล่นเอาทั้งผู้นำเดโมแครตและแฟนคลับโอบามาต้องลุ้นคะแนนโหวตแบบหืดขึ้นคอ ขณะที่มิตต์ รอมนีย์เอง ดูฟอร์มแล้วไม่น่าจะมาไกลถึงขนาดที่มีคะแนนสูสีขนาดนี้ แต่วันนี้ เราต้องยอมรับว่า เขาทำได้แล้ว ซึ่งน่าจะเป็นเพราะนโยบายเศรษฐกิจที่มีความเป็นรูปธรรม และตอบโจทย์ชาวอเมริกันมากกว่า!
เลือกตั้งสหรัฐอเมริกา บารัค โอบามา ภาพจาก Barack Obama
เป็นไปได้ว่าคะแนนที่หดหายของโอบามาในสมัยแรก และการเบียดขับ เข่นเคี่ยวกันจนคะแนนโหวตของรอมนีย์ที่ขึ้นมาได้ขนาดนี้ สืบเนื่องจากการจ่อมจมอยู่กับปัญหาการเมืองระหว่างประเทศและปัญหาความมั่นคง ที่รุกไล่ทีมของผู้นำบารัค โอบามาเสมือนหนึ่งเล่นเกมงูกินหาง ไหนจะต้องตามล่าสังหารอุซมาห์ บินลาเดน ตัวการสำคัญที่เป็นผู้ท้าทายอำนาจสหรัฐฯ ตัวฉกาจ และเป็นสิ่งที่เขาให้คำมั่นไว้ในสมัยแรก
ตลอดจนการไล่ต้อนกลุ่มผู้นำใน ประเทศต่างๆ ในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนืออย่างไม่หยุดยั้ง เพราะกระแสอาหรับสปริงที่ทำให้เขาเชื่อว่ามวลชนในโลกอาหรับต้อนรับกระแส ประชาธิปไตยอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง ไหนเลยประเทศต้นแบบแห่งประชาธิปไตยจะอยู่เฉย และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง สหรัฐฯ ผู้เป็นเสมือนตำรวจโลกมาเนิ่นนาน จะปล่อยผ่านเรื่องนี้ไม่ได้
อีกด้านหนึ่ง คือการรับมือกับจีน สหรัฐฯ จะยังคงเดินเกมปิดล้อมจีนต่อไป โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ ที่แม้รอมนีย์จะประกาศกร้าวเสมือนว่าจีนเป็นศัตรู แต่โอบามาเห็นว่าจีนคือคู่แข่ง และเป็นคู่แข่งที่สำคัญจนต้องใช้การทูตผูกมิตรชาติในเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผูกสัมพันธ์กับประเทศที่เห็นจีนเป็นศัตรู และการแสดงความพร้อมที่จะช่วยเหลือชาติในเอเชียที่มีความขัดแย้งระหว่างกัน ไม่ว่าจะเป็นการเห็นด้วยกับท่าทีของญี่ปุ่น กรณีความขัดแย้งหมู่เกาะเตี้ยวหยูวหรือหมู่เกาะเซนกากุ หรือกรณีหมู่เกาะทาเคชิม่าหรือหมู่เกาะต็อกโตที่ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้บาดหมาง กัน
รวมถึงอีกกรณีที่มีนัยสำคัญต่อจุดยืนและท่าทีของอาเซียน คงเป็นประเด็นใดไม่ได้ถ้าไม่ใช่กรณีของหมู่เกาะทะเลจีนใต้ ที่สหรัฐฯ โดดเข้ามาสนับสนุนทั้งเวียดนาม ฟิลิปปินส์ ฯลฯ อย่างเต็มตัว ไม่ว่าจะด้วยการกล่าวถ้อยแถลงที่สนับสนุนการทูตพหุภาคีในอาเซียนเพื่อแก้ไข ปัญหา หรือการแสดงท่าทีแข็งขืน ไม่เห็นด้วยกับจีนที่จะดีลปัญหาด้วยการทูตทวิภาคีแบบรัฐต่อรัฐ
เดโมแครต เลือกตั้งสหรัฐ บารัค โอบามา ภาพจาก Democrats
ประเด็นเหล่านี้ล้วนเป็นท่าทีของสหรัฐฯ ที่มีต่อปัจจจัยภายนอกประเทศ แต่ช่วยรักษาภาพลักษณ์อันทรงอำนาจของสหรัฐอเมริกาที่ยากจะมีใครลูบคม แต่ปัจจัยภายในที่โอบามาเฝ้าจ่อมจมอยู่กับการแก้ไขปัญหา คงหนีไม่พ้นเรื่องประกันสุขภาพและการรักษาผลประโยชน์ของชนชั้นกลางที่เป็น ฐานเสียงหลัก มากกว่าจะมุ่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจอย่างจริงจัง
การพยายามแก้ ปัญหาด้านนี้อย่างเห็นได้ชัดจากโอบามาฯ น่าจะเป็นเรื่องผูกมิตรกับต่างประเทศและกดดันให้ซื้อสินค้าส่งออกจากสหรัฐฯ ตลอดจนการดำเนินนโยบายอุ้มกลุ่มทุน อุตสาหกรรมรถยนต์ ธนาคาร เพื่อประคับประคองเศรษฐกิจสหรัฐให้ดำเนินต่อไป แต่ขณะเดียวกันก็ทำให้เกิดปรากฎการณ์ยึดครองวอลล์สตรีท หรือ Occupy Wall Street ด้วย และแน่นอนว่าโวหารของเขายังคงครองใจประชาชนเช่นเดิม แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับมา ทำให้เห็นว่าเขายังพูดมากกว่าทำในด้านเศรษฐกิจ
นอก จากนี้ เศรษฐกิจที่ติดหล่มปลักของสหรัฐฯ กำลังค่อยๆ เคลื่อนไปข้างหน้าอย่างช้าๆ โดยภาพรวมของประเทศเอง ที่ค่อยๆ เป็นไป มากกว่าจะขับเคลื่อนหรือแก้ปัญหาได้ด้วยผู้นำประเทศ แน่นอนว่า หากสมัยหน้าเขาจะยังต้องการให้เก้าอี้ผู้นำประเทศเป็นของเดโมแครตอยู่ ทีมรัฐบาลจะต้องทุ่มเททุกสรรพกำลังเพื่อเร่งฟื้นเศรษฐกิจอย่างเต็มที่ มากกว่าการหมกมุ่นกับการแก้ไขปัญหาด้านความมั่นคงอย่างที่เคยเป็นมา